ประเด็นร้อน

สปท.โดดป้อง สังศิต ปมบิ๊กแป๊ะฟ้องหมิ่นผบ.ตร.

โดย ACT โพสเมื่อ Jun 13,2017

 สว.50ล้านบิ๊กป้อมการันตีไม่มีแน่


- - สำนักข่าว พิมพ์ไทย วันที่ 13/06/60 - -

สปท.โดดป้อง "สังศิต" หลังตร.ฟ้องหมิ่นฯปมขุดองค์กรสตช. "เสรี" จ่อพบ ผบ.ตร.หาข้อยุติ  ด้าน "บิ๊กแป๊ะ" สั่งสอบซื้อ-ขายเก้าอี้รองผบก.-สว.50 ล้าน เปิดรับแจ้งเบาะแส ขณะที่"บิ๊กป้อม" การันตีไม่มีเซ็งลี้แน่
          
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน เวลา 09.30 น.  ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดยมี ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะประธานสปท.ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม
          
ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปท. ได้ขอหารือกรณีที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แจ้งความดำเนินคดีนายสังศิต พิริยะรังสรรค์สมาชิก สปท. ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีพูดในวงเสวนา"'ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร" ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
          
โดย นายวันชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมานายสังศิตเคยอภิปรายเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจหลายครั้ง และได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการต่อต้านคอรัปชั่น ถือว่าน่าภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นสมาชิกด้วยกัน
          
ส่วนการอภิปรายของนายสังศิต ในงานเสวนาดังกล่าว เป็นการพูดในลักษณะกระจายอำนาจไปสู่จังหวัดซึ่งไม่น่าเชื่อว่าสอดคล้องกับแนวคิดของนายกฯ เรื่องการปฏิรูปตำรวจ และไม่มีส่วนใดหมิ่นประมาทหรือใส่ร้ายแต่ประการใด แต่ปรากฎว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายสังศิต ตนเห็นว่าสมาชิกทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน เมื่อได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ จึงอยากให้ประธานฯ แสดงออกในลักษณะปกป้องคุ้มครองสมาชิก ตนเชื่อว่าภาวะผู้นำของประธานฯ น่าจะเป็นประโยชน์ และเป็นกำลังใจได้แม้ว่านายสังศิต จะเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนเชื่อว่าสามารถสู้คดีได้ แต่เหตุใดเราต้องปล่อยให้นายสังศิต ไปฝ่าฟันสู้คดีในเรื่องที่ท่านทำหน้าที่โดยสุจริต
          
ด้าน นายประมนต์ สุธีวงศ์ สมาชิก สปท. และประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น จัดเสวนาเกี่ยวกับธรรมาภิบาลมาตลอดซึ่งงานเสวนาหัวข้อ "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร" มีการเชิญผู้ร่วมอภิปรายจากหลายองค์กร โดยนายสังศิต อยู่ในส่วนของนักวิชาการ เท่าที่ฟังเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเหตุผล เพราะการที่หน่วยงานราชการที่ให้บริการประชาชนจะถูกวิจารณ์ถือเป็นเรื่องสำคัญเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป ควรเปิดใจกว้างที่จะรับฟัง
          
ขณะที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิก สปท.ชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำหน้าที่ของสมาชิกในการเสนอความเห็น ซึ่งตนเชื่อว่ามีเจตนาสุจริตที่ต้องการให้องค์กรตำรวจดีขึ้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดความเสื่อมเสียแต่อย่างใด แต่เมื่อการทำหน้าที่ของสมาชิกเกิดปัญหา เราคงละเลยไม่ได้ ตนในฐานะที่เป็นสมาชิก และประธานกรรมาธิการ(กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง สปท.ซึ่งอยู่ในกมธ.เดียวกันกับนายสังศิต จะรับไปประสานกับผบ.ตร.เพื่อทำความเข้าใจและหาข้อยุติไม่ให้เกิดปัญหามากกว่านี้
          
ด้าน นายสังศิต กล่าวว่า ขอบคุณสมาชิกที่หารือเรื่องดังกล่าว โดยตั้งแต่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกมานั้น ตนไม่เคยหยุดพูดเรื่องการปฏิรูปตำรวจเลยแต่ยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งหรือไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการส่วนตัว ทั้งนี้ตนได้รับแรงบันดาลใจ อยากจะปรับปรุงบ้านเมืองมาจากการอ่านตำราวิชาการเรื่อง"การก่อตัวขึ้นของรัฐเยอรมันสมัยใหม่"
          
"ผมอยากให้รัฐไทยเป็นรัฐสมัยใหม่ที่ควบคุมการทุจริตได้ ผมไม่เชื่อว่าการทุจริตจะกวาดล้างได้จริงแต่เราต้องควบคุมคอรัปชั่นเอาไว้ ไม่ควรเอาชนะทุจริตแบบเบ็ดเสร็จ ทุกครั้งที่ได้รับเกียรติไปบรรยายเกี่ยวกับปัญหาตำรวจ ตระหนักอยู่เสมอว่าต้องพูดในหลักการไม่ดูหมิ่นใคร หรือพูดพาดพิงกระแนะกระแหนใครคนใดคนหนึ่ง" นายสังศิต กล่าว และว่า ตนไม่ได้ต้องการอะไรมากจากองค์กรตำรวจ เพียงขอให้องค์กรดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้นกว่าเดิมเพียงนิดเดียวตนก็จะเลิกพูดเรื่องนี้ และคงนอนตายตาหลับ
          
ขณะที่ร.อ.ทินพันธุ์ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจแก่นายสังศิต และจะนำเรื่องดังกล่าวพิจารณาในการประชุมคณะกมธ.วิสามัญ กิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิปสปท.) ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้
          
วันเดียวกันที่ สตช. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญรองโฆษก สตช. ระบุถึงกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัยอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ระบุถึงการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งระดับรองผู้บังคับการ(รองผบก.)  ถึงสารวัตร(สว.) วาระประจำปี 2559 มีการซื้อขายตำแหน่งมีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ว่า กรณีนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังได้รับข้อมูลดังกล่าวจากสื่อ อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าการแต่งตั้งเป็นอำนาจของผบ.ตร.แต่เพียงผู้เดียว ทุกอย่างอยู่บนหลักเกณฑ์ วิธีการคัดเลือกที่โปร่งใสอยู่แล้ว จะมีคณะกรรมการพิจารณาอีกต่อหนึ่ง หากมีประเด็นทุจริตจริง ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด จะตรวจสอบให้คลายข้อสงสัย หากใครมีข้อมูลขอให้นำเรียนมายังผบ.ตร.ทันที
          
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า "ไม่มีหรอก ก็พูดไปก็เอาตัวมายืนยันกันเลย ไม่มีหรอกครับ"
          
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการออกมาเปิดเผยว่าภรรยานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เป็นผู้เรียกเงินเพื่อแลกกับตำแหน่งพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ผมไม่รู้ แต่ผมมั่นใจในผู้ใต้บังคับบัญชาว่า เขาทำทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะมันทำกันยังไงผมยังไม่รู้วิธีการซื้อตำแหน่ง มันซื้อยังไง ซื้อยังไงผมยังนึกไม่ออกเลยตัวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เขาเสนอรายชื่อเขามีสิทธิที่จะทำให้ถูกต้อง มันก็หลอกกันไปหลอกกันมา"
          
เมื่อถามว่า ข้อมูลของผู้ที่เปิดเผยออกมา ตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมไม่รู้เพราะผมไม่รู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไร"